ถ้าจะมีแฟน อย่าให้เขาวุ่นวายในเรื่องงานจนคนรอบข้างเดือดร้อน

อยากมีแฟน แน่นอนว่าสังคมของการมีแฟนเป็นเรื่องปกติ เรื่องส่วนตัวของแต่ละคน หากความรักเริ่มผลิบานพร้อมที่จะรักกัน บางทีเราก็อยากมีแค่เขาเพียงสองคน ในขณะเดียวกันเราก็อยากให้เขาทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงานด้วย เพื่อที่จะได้เปิดเผยว่าเขากำลังคบกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เลยกล้าที่จะเปิดตัวว่า คบกับคนนี้อยู่

ใครว่าการมีแฟนทั้งที การให้เกียรติคนที่รักกันใช่ว่าจะไม่สำคัญ แม้แต่เรื่องงานต้องให้เกียรติอย่างมาก

เพราะการที่มีแฟนจนเสียงานเสียการ คุณอาจจะโดนตัดอนาคตเพราะความสัมพันธ์ที่กระทบต่องาน หรือดีไม่ดีอาจจะได้รับการเขม่นจากเพื่อนร่วมงาน โทษฐานไม่รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวอีกด้วย

ข้อนี้จึงเป็นข้อควรระวังว่าถ้าคอยตามจิก มันจะส่งผลกระทบถึงเราหรือไม่ การทำงานในปัจจุบันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ไม่ต่างจากเหยียบบนเส้นด้ายเลย ถ้าทำผิดกฎหรือทำอะไรที่เป็นเรื่อง โอกาสโดนไล่ออกมากกว่าในช่วงปกติอย่างมาก ยิ่งอยู่ในช่วงโควิด ซึ่งเป็นสถานการณ์การระบาดค่อนข้างรุนแรง บวกกับเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้เราต้องเกาะตำแหน่งการงานตัวเองยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ ในขณะที่ใครหลายคนต้องเตะฝุ่น ว่างงานบ้างตกงานบ้าง บางคนต้องแบกรับหนี้สินร่วมด้วย ก็คงไม่มีใครอยากเอาแฟนมายุ่งในเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวหรอกกระมัง

ถ้ายิ่งทำงานในที่ทำงานเดียวกัน ต้องให้เกียรติกันมากๆ เพราะถ้ามีปัญหาอะไรจะเสียกันทั้งคู่

ผู้เขียนมีประสบการณ์รุ่นพี่ที่สนิทกัน อันนี้ขออนุญาตเล่าผ่านบทความเพื่อเตือนคนที่มีแฟนแล้วอยู่ในช่วงทำงาน กินเงินเดือน ถ้ามีปัญหาอะไรอยากให้เคลียร์เรื่องส่วนตัวให้ดี เพื่อที่ไม่ให้คุณเจอเหมือนที่รุ่นพี่ของฉันเจอกับตัว ต้องเท้าความก่อนว่าแฟนพี่เขาเป็นคนน่ารักสดใส แต่เขาเป็นคนน่ารักที่ขี้หึงแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานของเขา ที่เป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะสาวหรือ วัยทอง ยังเข้าไปคุยไม่ได้เลย อีกทั้งต้องด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายผ่านโซเชียลแทบทุกครั้งด้วยศัพท์ภาษาคุณตัว และอีกอย่างชอบคอยเช็คเหมือนระแวงจนเพื่อนร่วมงานเขาเรียกไปเตือน

“แกรู้ไหมว่าเรื่องส่วนตัวของแก…ที่ทำงานจะมีปัญหานะ”

พี่เขาโดนเตือนด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นประจำ อาจจะเป็นเพราะโดนร้องเรียนเรื่องนี้จากเขาและแฟนของเขาด้วย นอกจากนี้ยังทำให้คนหลายคนไม่ชอบตัวเขาโดยปริยาย โดยให้เหตุผลว่าไม่รู้จักแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เอาคนอื่นมาด่าถึงที่ทำงานได้มันใช่เหรอ จนเขาถามกันเป็นคำถามเดียวกันว่าตกลงนี่แฟนหรือแม่คนที่สองของเขาหรือไงกัน

“บอกเลยเตือนพี่เขา หนูเหนื่อย ไม่ชอบแฟนเขาเลยพี่”

“ใช่ๆ ขนาดแฟนเขาทำงาน ไม่ได้นอกลู่นอกทางนะเนี่ย ใครติดต่อเรื่องงานอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่จำเป็นนะพี่”

ยิ่งมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานของแฟนมากเท่าไหร่ ปัจจัยแรกเลยก็คือเขาจะไม่ชอบหน้าทั้งคู่เลย หรือรุนแรงกว่านี้อาจถึงขั้นบอกกันว่า…อย่าชวนคนนี้มาในกลุ่มพวกเขาเลย เขาไม่ชอบหน้าตั้งแต่ทำให้มีเรื่องแล้ว

การที่จะรักกัน ถ้ารู้จักให้เกียรติกัน เห็นหัวกัน รักษาหน้ากันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ความขัดแย้งจะไม่มีเลย แล้วระเบิดอารมณ์จะไม่มีให้เกิดความขัดแย้งในประเด็นนั้นๆ ของทั้งสองอีกด้วย

ของแบบนี้ ถ้าจะหึงควรหึงแบบหอมปากหอมคอ อย่าให้ถึงขั้นหึงแบบใครไม่สามารถติดต่อเรื่องงานได้ แฟนคุณจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานทันที ดีไม่ดีก็คุณทั้งสองจะโดนเขม่นกันไปด้วย ซึ่งการทำความรู้จักกับเพื่อนแฟน ไม่ว่าจะเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนสนิทของแฟน ควรระมัดระวังกันให้มากในการวางตัว

แต่ถ้าเพื่อนสนิทผู้หญิงเข้าใกล้โดยเชื่อว่า…เพื่อนนี่แหละตัวคาบไปกิน อันนี้มันไม่ใช่แล้วล่ะ

การที่คนจะนอกใจต้องนอกใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่เขาเข้าใกล้แล้วจะนอกใจทันทีทันใด มันต้องอยู่ที่เจตนาที่จะทำ แต่ถ้าเขายังให้เกียรติ ยังรักษาหน้าเราอยู่ในความสัมพันธ์ เขาย่อมนึกถึงอยู่แล้ว เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่รับไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว แต่ทั้งนี้ในเมื่อมีสมอง ก็ควรแยกแยะนิดหนึ่งว่าเพราะอะไร ไม่ใช่หึงแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเหมือนคนขาดสติ หากมีงานไหนที่เป็นงานเลี้ยง คุณจะกลายเป็นพวก Party Pooper ไปโดยปริยาย

เพราะถ้าหึงหวงแบบขาดความพอดี…คุณจะไม่ต่างอะไรจากเห็นหน้าปุ๊บแล้วหมดสนุก งานกร่อยลงทันใด

จนวันหนึ่งความสัมพันธ์ถึงคราวร้าวฉาน เนื่องจากความเยอะของอีกฝ่ายสะสมอยู่มานาน ทำให้ถึงคราวระเบิดออกมาจนต้องแยกทางกัน (ด้วยความไม่ดี) เขายังโดนแฟนของเขาเองไลฟ์สด ทางโซเชียลเพื่อเอาคืนพี่เขา ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ควรให้ถึงขั้นนี้เลยที่จะต้องมาแฉกันทางโซเชียล แม้ว่าจะเป็นการไลฟ์กันเพื่อพูดถึงเขาคนนั้น

แต่นั่นก็จะเป็นหลักฐานมัดตัวเองในภายหลัง เพียงเพราะมาจาก Account ของตัวเองทั้งสิ้น ยิ่งสมัยนี้หากใครโดนข้อหาด้าน พรบ.คอมพิวเตอร์ แทบหลายคดีต้องรับคำขอโทษเป็นเงินสดทุกราย

ทุกวันนี้รุ่นพี่คนนี้ก็กลับมาทำงานตามปกติ ยังโชคดีที่มีคนเข้าใจแกอยู่บ้าง กว่าพี่แกจะเยียวยาได้ก็บอบช้ำพอสมควร แน่นอนว่าการจบความสัมพันธ์ ไม่มีใครไม่เจ็บจากความสัมพันธ์ของกันและกัน แต่จะดีกว่านี้ไหมถ้าหากให้เกียรติกัน ลดความเอาแต่ใจของตัวเองลง ลดความเจ้าอารมณ์ และเบาเรื่องอัตตาในใจของตัวเองลง ในที่ทำงานของเราอาจจะถูกพูดถึงในแง่ดีมากกว่านี้ก็ได้นะ ไม่ได้พูดในเชิงว่า…เลิกๆ ไปเหอะเสียเวลาทำมาหากิน

คุณเองก็มีสิทธิ์เลือกได้นะ ว่าถ้าหากจะมีแฟน คุณอยากให้ที่ทำงานมองแฟนคุณในแง่ดีหรือแง่ร้าย และคุณจะวางตัวยังไงให้เป็นคนน่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตนในสายตาของเพื่อนร่วมงานของคุณ คุณก็มีสิทธิ์เลือกมันได้นี่ มันอยู่ที่ว่าคุณจะทำตัวแบบไหนไม่ให้เพื่อนร่วมงานของเขาเห็นหน้าแล้วรังเกียจยิ่งกว่าสิ่งปฏิกูลในใจของเขา

นี่แหละ…บทความนี้ควรเตือนสติอย่างมาก ยิ่งมีแฟนกินเงินเดือน ยิ่งต้องมีวุฒิภาวะให้มาก ไม่ใช่โตแต่อายุ

อยากมีแฟน