การเล่นโซเชียลมีเดีย มีโทษอย่างไร

โซเชียลมีเดีย กระบวนการการพักผ่อนมาเป็นช่วงเวลา มาเป็นพฤติกรรมในการใช้ชีวิต วิธีคิดในการวางแผน ทำยังไงให้มันเป็นไปได้ ทำยังไงให้มันสมประโยชน์ ทำยังไงให้มันส่งทรงพลัง ก็มาดูว่าเราแบ่งเป็น 4 ก้อนมีก้อนอะไรบ้าง ไปดูคุณ ซีเฟน คอฟฟี่ ซึ่งผมเคยอ่านหนังสือเข้าไปแล้วหลายที พูดไว้ว่าเวลาในการดำรงชีวิต ก็คือเวลาที่แบบว่าเราเร่งด่วนสำคัญนะ ใช้เวลาการทำงานซะส่วนใหญ่ เวลาเร่งด่วนไม่สำคัญเนื้อคือเวลาแบบว่าประชุมเดินทาง ช่วงนั้นเราอาจทำอะไรหลายๆ อย่างได้ด้วยเอามาตั้งแต่เร่งด่วนสำคัญในการทำงานก่อน

ไม่งั้นทำงานก็ทำไปตั้งแต่แรกพักผ่อนเพียงพอ จิตใจเบิกบานให้เวลาตั้งแต่แรกจนจบเลยนะ คือเวลาในการทำงาน ไม่ใช่ทำงานอย่างเดียวนะอ่านหนังสือด้วยก็ได้สำหรับคนที่จะเข้าไปสอบ คุณต้องทำอะไรต่อเนื่องกัน 2 ชั่วโมง จำไว้แล้วก็พัก จำไว้นะแล้วต้องนอนเพียงพอมันถึงจะมีแรง ต้องกินเพียงพอต้องกินถูกคุณถึงจะอยู่อย่างมีศักยภาพที่ดี เดี๋ยวเรื่องกินเราจะมาคุยกันอีกที พอเป็นไปแบบนั้นเสร็จปุ๊บไอ้รู้อยู่แล้วกระโดดมาอีกอันหนึ่งเลยดีกว่า

คือเวลาที่เร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ คือเรื่องเวลานี้เขาเรียกว่าสิ้นเปลือง เช่นส่งเอกสารเดินเอกสาร วางบิลไปประชุมกับเจ้านายทั้งๆ ที่ topic ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลยสักนิด แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นที่ตรงนั้น ขับรถอันแสนติดอยู่บนพื้นที่ระหว่างการรอคอย ไม่มีใครอนุมัติ project ระหว่างรอผู้สอนไปรอหน้าโรงเรียนกวดวิชา เม้ามอยจนเบื่อแล้ว ครูก็ยังไม่มาทำยังไงดีมันมีวิธีก็คือการใช้เวลานั้นไปอย่างสมประโยชน์ เช่นถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะพกหนังสือสองเล่ม จริงจังเล่มหนึ่งไม่จริงจังและหนึ่ง ติดกระเป๋าไว้ตลอดจนเป็นนิสัยถึงทุกวันนี้แหละ จริงจังไว้อ่านให้ความรู้ ไม่จริงจังเอาไว้อ่านความรอบรู้ คือเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้

แต่ก็รู้ไว้ก่อนรู้ไว้ตอบโจทย์อารมณ์อย่างเดียวเลย มันก็คงจะได้ใช้สักวันหนึ่ง อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่อยากรู้ในตอนนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียนอะไรเลย ไม่เกี่ยวไม่ต้องมาแบบโอ้โห ฉันเป็นบัญชีฉันก็ต้องอ่านหนังสือไม่ต้อง อ่านหนังสือที่คุณพกไว้จะเป็นหนังสือประวัติของเจ้าของ Virgin ก็ได้ใช่ ไหมใช่ไหมครับ หรืออาจจะเป็นหนังสือของมหาตมะคานธี อะไรแบบนี้ แม่หญิงการะเกดในยุคอยุธยาแล้วแต่คุณเลย กับเรื่องที่คุณอยากรู้กับเรื่องที่ไร้สาระ Magazine ที่มันแบบไม่มีสาระข่าว ไว้อ่านเพื่อให้ตัวเองอัปเดตตามเทรนดี้ พวกนั้นควรจะพกไว้เอาไว้อ่าน เพื่อแก้เวลาสิ้นเปลืองนี้มันจะกลายเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ยังมีอีกยังมีช่วงเวลาที่ไร้ประโยชน์ช่วงเวลาตรงนี้สำคัญที่สุดเลย คือการ Social Media โดยไม่ได้เล่นเพื่องาน

ถ้าทำเล่นโซเชียลมีเดียทำงานไปด้วย มันมีประโยชน์ต่อการทํางาน เสริมในงานกด Follow คนที่มีงานอยู่ในนั้น เล่นทวิตเตอร์ที่เล่นสร้างชื่อไปก่อนเดี๋ยวคนมาจ้างรีวิว อาจจะยังไม่ได้ประโยชน์ซะทีเดียวเลยเล่นไปละกันตามโอปป้าต้องกดรีทวิตโอป ป้าบุพเพสันนิวาสอย่างนี้อันตราย เล่นไปส่องนมดีกว่าเว้ยเฮ้ย มีสาวที่ไหนน่ารักบ้าง นัทธนัทนัดยิ้มหานัดยิ้มอย่างเงี้ย เรียกว่าไร้สาระต้องตัดออก คนไทยเล่นโซเชียลมีเดียติดวันละ 6-8 ชั่วโมงโถ่เล่นไม่ได้ยังไง

ผมก็เหมือนกันนั่นแหละ ผมก็เพิ่งกลับมาเล่น Facebook อีกนะ เล่นได้ไม่นานหรอกอยากรู้คือผมไม่ชอบเล่น เพราะถ้าเล่นแล้วก็ใช้โอกาสนี้แหละในการศึกษา ในการทดสอบไหนลองพูดเรื่องคุยเยอะๆ ดูซิ ไหนลงขี้อวดดูซิไหนเราตลกดูซิไหนลองเอาอะไรที่ชอบลองดูซิ ไหนลองแชร์ดูซิ ได้ข้อสรุปว่า Facebook เป็นสังคมที่แบบสนใจแต่เรื่องตัวเองและเรื่องเพื่อนของตัวเอง น้อยที่คนอื่นจะไปสนใจเรื่องข้างนอก ก็มีบ้างแต่ก็จะเห็นเรื่องเอ็นเกจเม้นท์ว่าแบบ เขาจะกดไลค์ให้ตอนที่เราลงรูปหน้าตัวเองเยอะๆ ทำงานอยู่น้องสู้ต่อไป กินข้าวไม่อิ่มเลยอิอิ รักเธอคนเดียวกดไลค์กันบานเถือก ไม่มีไม่เกี่ยวเลยมีสาระหรือเปล่าไม่เกี่ยว

ถูกใจหวานตลกชอบใจแชร์มาตลกโอเค เอาซึ่งเราจะไปตรงเวลากับการที่เราไปดูเพื่อนเราเยอะเกิน ไปซึ่งมันไม่จำเป็นต้องดูตอนนี้ก็ได้ พอเจอน้อง typical ขึ้นมานี่ เฮ้ยสีแดงขึ้นมาเป็นจุดๆ สงสัย Hot เข้าไปดูหน่อยสิ ผมลองดูแล้วยาวเลยยาวจริงทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ชอบเลย ยาวแต่ถามว่าไม่เล่นได้ไหมไม่ได้ ต้องเล่นแต่ว่าต้องสร้างช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเรียกว่าบล็อกไทม์ หรือว่าช่วงเวลาที่เอาไว้เล่นเลยว่างแล้วจัดเล่นช่วงนี้ ไม่ว่างไม่เล่นของเล่นอย่างนี้ต้องตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นแบบนี้ออกไปจากชีวิตเลย เล่นให้น้อยลงเล่นเหมือนคนญี่ปุ่น เป็น Social Media ก็ 2 ชั่วโมงเองเกาหลีเงี้ย สิงคโปร์เล่นอินเทอร์เน็ตน้อยมากเลย เขาจริงจังกับงาน คนญี่ปุ่นก็จะเป็นรากเหง้าวัฒนธรรม ถ้าเกิดใครรู้ภาษาญี่ปุ่นก็รู้ดีว่าเป็นสังคมที่แบบกลัวว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน กลัวว่าตัวเองทำงานน้อยนะ

เราจะทำให้คนอื่นอย่าทำงานเยอะขึ้นกลัวว่าจะถูกติฉินนินทามองดูถูกเหยียดหยาม หยามเกียรติประวัติอะไรอย่างนี้ คนญี่ปุ่นก็เลยจะต้องทำงานถวายชีวิตยังไม่พอ ยังต้องไปกินเหล้ากับเจ้านายแล้วต้องตื่นเช้ามาก โหดกว่าประเทศเราเยอะมากไปอยู่ญี่ปุ่นที่เราร้องไห้แน่นอน ไม่รอดเรายังชิวมากเลย ต้องทำได้สิ อีกอันเป็นเวลาที่น่าสนใจมาก เช่นเวลาที่พวกคุณฟังผมอยู่นี่แหละครับ มันเรียกว่าช่วงเวลาการลงทุน Investment ช่วงให้การลงทุน คือเวลาที่คุณไม่ได้ทำอะไรเปล่าประโยชน์ มันไม่ได้เร่งด่วนขนาดนั้นคุณฝึกทักษะ ฝึกสกิล มาฟังผมโอ้โห ได้ทักษะไปปรับใช้ ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้แล้วดีขึ้นรู้สึกชีวิตดีขึ้นเอาไปปรับใช้ได้จริงๆ

อย่างเงี้ยเราเรียกว่าช่วงเวลาแห่งการลงทุน เรียกว่าช่วงเวลาแห่งการลงทุนการอ่านหนังสือช่วงเวลาแห่งการลงทุนการออกกำลังกายช่วงเวลาแห่งการลงทุน เพราะมันจะทำให้ชีวิตดีขึ้น อะไรประมาณเนี้ย เรียกว่าช่วงเวลาแห่งการลงทุนคุณควรจะต้องใช้มันด้วย มันจะเข้ากันยังไงล่ะ ก็ตื่นเช้าขึ้นมาทำงาน ตื่นเช้าขึ้นมาทำงานกินข้าว กินของที่มีประโยชน์ แบบนี้เรียกว่าลงทุน กินของไม่มีประโยชน์เรียกว่ารีแล็คพักผ่อน เช้ามาทำงานๆ พักผ่อนๆ กินๆ ไม่คิดมากๆ ไม่คิดมากจริงๆ แล้วมันเป็นยังไงต่อ ประชุมอีกแล้วใช้เวลาไปงานสิ้นเปลือง เอ้าหยิบหนังสือมาอ่านสิ ประชุมเสร็จไปทำงาน ทำงานคือทำงานอยู่แล้วต้องทำเต็มศักยภาพอยู่แล้วใช่ไหมครับ

“โซเชียลมีเดีย”

บทความอื่นที่น่าสนใจ > ความรักคืออะไร